Telemedicine

ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว

นัดปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ พร้อมนำยา และเวชภัณฑ์ที่ต้องการส่งตรงถึงประตูบ้าน

เริ่มปรึกษาได้ทันที

เริ่มต้นง่ายๆ ในไม่กี่วินาที

เริ่มต้นได้ง่ายและสะดวกสบาย ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

01

สมัครผ่าน LINE Mini App

บริการของเราใช้งานได้โดยตรงผ่าน LINE เพียงแค่ค้นหา 'MedCare' ในช่องค้นหา จากนั้น เลือกเมนู "บริการ" ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ แอดเราเป็นเพื่อน และคุณสามารถเริ่มส่งข้อความถึงเราเพื่อปรึกษากับเภสัชกรที่ได้รับใบอนุญาตได้ทันที ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่ม!

แอดไลน์ของ Medcare
02

ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของเรา

บุคลากรทางการแพทย์ของเราจะทำการวินิจฉัยอาการของคุณ ประวัติการรักษาเดิม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหายาให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

03

บริการส่งสินค้าให้ถึงที่

ในกรณีที่คุณไม่สามารถมารับยาที่ร้านขายยาเองได้ เราสามารถช่วยจัดหาพาร์ทเนอร์ในการจัดส่งเพื่อมารับยาแทนและส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานของคุณภายใน 1 ชั่วโมง* (การจัดส่งด่วน)

01

สมัครผ่าน LINE Mini App

บริการของเราใช้งานได้โดยตรงผ่าน LINE เพียงแค่ค้นหา 'MedCare' ในช่องค้นหา จากนั้น เลือกเมนู "บริการ" ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ แอดเราเป็นเพื่อน และคุณสามารถเริ่มส่งข้อความถึงเราเพื่อปรึกษากับเภสัชกรที่ได้รับใบอนุญาตได้ทันที ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่ม!

แอดไลน์ของ Medcare
02

ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของเรา

บุคลากรทางการแพทย์ของเราจะทำการวินิจฉัยอาการของคุณ ประวัติการรักษาเดิม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหายาให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

03

บริการส่งสินค้าให้ถึงที่

ในกรณีที่คุณไม่สามารถมารับยาที่ร้านขายยาเองได้ เราสามารถช่วยจัดหาพาร์ทเนอร์ในการจัดส่งเพื่อมารับยาแทนและส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานของคุณภายใน 1 ชั่วโมง* (การจัดส่งด่วน)

ผู้เชี่ยวชาญในทุกด้านของการดูแลสุขภาพ

ทีมของเราประกอบไปด้วยแพทย์ เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาที่หลากหลาย ที่ครอบคลุมตั้งแต่อาการเจ็บป่วยที่พบเจอในชีวิตประจำวันอย่างหวัด ไปจนถึงโรคที่ซับซ้อนอย่างโรคหลอดเลือดสสมอง อาการเกี่ยวกับหัวใจ โรคข้ออักเสบ เบาหวาน และอื่นๆ

มั่นใจในทุกคำปรึกษา

แพทย์ของเรามีประสบการณ์จากโรงพยาบาลชั้นนำ ไม่ว่าคุณจะมีอาการเจ็บป่วย หรือคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพที่ต้องการความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ เราก็มีทีมงานที่พร้อมจะตอบคำถามของคุณตามความเชี่ยวชาญ และสาขาที่เกี่ยวข้อง

เป็นส่วนตัว เพื่อความสบายใจแก่ผู้รับบริการ

การสนทนากับผู้เชี่ยวชาญนั้นจะถูกเก็บเป็นความลับ ปลอดภัย สามารถปรึกษาได้อย่างเต็มที่

How is MedCare different?

สะดวกกว่า เร็วกว่า

ตั้งแต่การปรึกษาเภสัชกรที่เข้าถึงง่าย ไปสู่บริการส่งด่วนจากพาร์ทเนอร์ของเรา ที่จะช่วยส่งยาให้คุณถึงประตูภายใน 1 ชั่วโมง* โดยทางเรามีจุดบริการรวมกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ

ช่วยให้คุณประหยัด

การเข้าถึงระบบสาธารณสุขในบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่ว่าจะจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปโรงพยาบาล การลาหยุดงาน ไปจนถึงการจ่ายค่าบริการอื่นๆ เราจะช่วยให้คุณประหยัดมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีเช่นกัน

เป็นส่วนตัว สบายใจยิ่งกว่า

หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัว มีความกังวลเรื่องประวัติการรักษา ไม่อยากเปิดเผยตัวตน คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกๆ การรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเราจะถูกเก็บไว้เป็นความลับสูงสุด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีการตัดสินใดๆ ไม่มีทำให้อับอาย วัตถุประสงค์ของเรามีเพียงช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นทั้งกายและใจ

ทำให้การดูแลสุขภาพของคุณก้าวล้ำไปอีกขั้น

เริ่มปรึกษาได้ทันที

Testimonial

พาร์ทเนอร์ของเรา

Articles

ผู้หญิงวัยรุ่นเริ่มทานยาคุมได้เมื่อไหร่ และการเลือกยาคุมให้เหมาะกับฮอร์โมนตัวเอง
การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงวัยรุ่นที่ต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือการวางแผนชีวิต อย่างไรก็ตาม หลายคนยังสงสัยว่า เริ่มทานยาคุมได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ และควรเลือกยาคุมแบบไหนให้เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง โดยทั่วไป ผู้หญิงวัยรุ่นสามารถเริ่มทานยาคุมกำเนิดได้ ตั้งแต่อายุที่เริ่มมีรอบเดือนสม่ำเสมอ ซึ่งมักอยู่ระหว่าง 13–15 ปี แต่การเริ่มใช้ยาคุมในวัยนี้ควรอยู่ภายใต้ การดูแลของแพทย์ เพราะร่างกายวัยรุ่นยังอยู่ในช่วงพัฒนาการ ฮอร์โมนยังไม่คงที่ และมีปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพบางอย่างที่ต้องประเมิน เช่น ความดันโลหิต น้ำหนักตัว หรือโรคหัวใจ ยาคุมกำเนิดมีหลายประเภท แต่ที่พบมากที่สุดคือ 1. ยาคุมฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives – COC) มีทั้ง เอสโตรเจนและโปรเจสติน ทำงานโดยยับยั้งการตกไข่และปรับสภาพเยื่อบุโพรงมดลูกให้ไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ ยาคุมชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ไม่มีปัญหาเรื่องลิ่มเลือดหรือโรคหัวใจ และสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่อง สิว ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือปวดประจำเดือนรุนแรง 2. ยาคุมเฉพาะโปรเจสติน (Progestin-only Pills – POP) ไม่มีเอสโตรเจน จึงปลอดภัยกว่าสำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงเรื่องลิ่มเลือด สูบบุหรี่ หรือมีประวัติสุขภาพบางอย่าง แต่บางครั้งอาจทำให้รอบเดือนไม่สม่ำเสมอ 3. แผ่นแปะหรือห่วงอนามัยฮอร์โมน (Hormonal Patch/IUD) เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ไม่อยากกินยาทุกวัน หรือมีปัญหาการจำเวลาใช้ยาคุมแบบเม็ด […]
December 2, 2025
ความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ากับยาคุม ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร
การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่นิยมในผู้หญิงวัยทำงานและวัยรุ่น เพราะสะดวกและมีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้หญิงหลายคนที่สูบพอต (vape) หรือใช้กัญชาสำหรับการผ่อนคลาย ความกังวลที่พบบ่อยคือ “การสูบพอตหรือบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมกับกินยาคุม มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน” ความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า กับ ยาคุมส่งผลต่อร่างกายอย่างไร ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives – COC) มีส่วนประกอบของ เอสโตรเจนและโปรเจสติน ฮอร์โมนเหล่านี้ทำงานโดยยับยั้งการตกไข่ และปรับสภาพเยื่อบุโพรงมดลูกให้ไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ แต่เอสโตรเจนสามารถเพิ่มโอกาสให้ลิ่มเลือดจับตัวเป็นลิ่มง่ายขึ้น การสูบพอตที่มีนิโคตินก็มีผลต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้หลอดเลือดตีบ แข็งตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด เมื่อรวมสองสิ่งนี้ ความเสี่ยงต่อ ลิ่มเลือด, หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง จะสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี หรือผู้ที่มีประวัติความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ การสูบกัญชาในพอตก็มีข้อควรระวัง แม้ว่าจะไม่มีนิโคติน แต่สาร THC อาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและความดันโลหิตบางกรณี การวิจัยยังไม่แน่ชัด แต่ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อใช้ร่วมกับยาคุมฮอร์โมนรวม ข้อควรปฏิบัติ  1. ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุม หากสูบพอตหรือมีนิสัยสูบบุหรี่  2. เลือกใช้ยาคุม เฉพาะโปรเจสติน (Progestin-only […]
November 21, 2025
10 วิธีแก้ไมเกรนด้วยตัวเอง ทั้งแบบเร่งด่วนและป้องกันระยะยาว
ปวดหัวไมเกรนเป็นอาการที่ทรมานและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยจำนวนมาก หลายคนอาจพึ่งพายาแก้ปวดเป็นทางเลือกแรก แต่การรู้วิธีแก้ไมเกรนด้วยตัวเองที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณจัดการกับอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาอาการเฉพาะหน้าหรือการป้องกันในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับอาการไมเกรนและเทคนิคการดูแลตนเองที่ใช้ได้จริง เช็กอาการ: นี่คือ “ไมเกรน” หรือแค่ “ปวดหัว” ธรรมดา? ก่อนจะเริ่มหาวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้น สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะให้ได้ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไมเกรนจริง หรือเป็นเพียงอาการปวดหัวธรรมดา เพราะวิธีการดูแลรักษาของทั้งสองแบบนั้นแตกต่างกัน อาการปวดหัวไมเกรนเป็นอย่างไร (ปวดตุ้บๆ, คลื่นไส้, แพ้แสง) อาการไมเกรนมักจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากปวดหัวทั่วไป โดยมักจะเป็นอาการปวดแบบตุ้บๆ หรือเต้นตามชีพจรข้างเดียวของศีรษะ ผู้ป่วยจะรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน และมีอาการแพ้แสงสว่างหรือเสียงดัง อาการมักจะรุนแรงจนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ และอาจกินเวลานานตั้งแต่ 4 ชั่วโมงจนถึง 3 วัน สัญญาณเตือนไมเกรน (Migraine Aura) บางคนอาจมีสัญญาณเตือนก่อนเกิดอาการปวดหัวไมเกรน เรียกว่า Aura ซึ่งอาจเป็นการมองเห็นแสงวูบวาบ เส้นคดๆ หรือจุดบอด บางครั้งอาจรู้สึกชาหรือเสียวซ่าบริเวณแขนหรือใบหน้า สัญญาณเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นประมาณ 20-60 นาทีก่อนที่จะเริ่มปวดหัว ปวดหัวแบบอื่น (Tension, Cluster) ต่างกันอย่างไร ปวดหัวจากความตึงเครียด (Tension Headache) จะมีลักษณะเป็นอาการรัดแน่นรอบศีรษะ ไม่เป็นแบบตุ้บๆ และมักไม่มีอาการคลื่นไส้หรือแพ้แสง ส่วนปวดหัว […]
November 14, 2025
สูบบุหรี่แล้วกินยาคุม มีความเสี่ยงไหม
การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่นิยมในหมู่ผู้หญิงหลายคน เนื่องจากสะดวกและมีประสิทธิภาพสูง แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าการสูบบุหรี่พร้อมกับการกินยาคุม อาจสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องระบบหัวใจและหลอดเลือด ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives – COC) มีส่วนประกอบของ เอสโตรเจนและโปรเจสติน ฮอร์โมนเหล่านี้ทำงานโดยยับยั้งการตกไข่และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว อย่างไรก็ตาม เอสโตรเจนในยาคุมกำเนิดสามารถเพิ่มโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด  ทำให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของ เส้นเลือดอุดตัน, หัวใจวาย, และโรคหลอดเลือดสมอง การสูบบุหรี่เองก็มีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจอยู่แล้ว โดยเฉพาะนิโคตินและสารพิษอื่น ๆ ในบุหรี่ที่ทำให้หลอดเลือดตีบ หลอดเลือดแข็งตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด เมื่อมีปัจจัยเสี่ยงร่วมกับการกินยาคุมฮอร์โมนรวม ความเสี่ยงเหล่านี้จะ ทวีคูณ โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี หรือผู้ที่มีประวัติความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ การศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่สูบบุหรี่และกินยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม มีความเสี่ยงต่อลิ่มเลือดในเส้นเลือดดำส่วนลึก (DVT) และ ลิ่มเลือดในปอด (PE) สูงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่หลายเท่า ยิ่งสูบบุหรี่หนัก ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้น สำหรับผู้หญิงที่สูบบุหรี่ แต่ยังต้องการใช้ยาคุมกำเนิด มีทางเลือกหลายแบบที่ปลอดภัยกว่า เช่น ยาคุมเฉพาะโปรเจสติน (Progestin-only pills), ห่วงอนามัยฮอร์โมน […]
November 14, 2025